Saturday, September 10, 2016

TRAVEL 101 : Where to STAY like a genius. - เลือกที่พักอย่างไรให้ชีวิตดี

คลาสเรียนการท่องเที่ยววันนี้ ว่าด้วยเรื่อง การเลือกที่พัก

เอาจริงการเลือกที่พักจะว่ายากก็ไม่ยาก จะว่าง่ายก็ไม่ง่าย ประเด็นอยู่ที่ความถูกใจ และ ดวงล้วนๆ ว่าจะได้ที่พักเหมือนในภาพไหม..ฮ่า ฮ่า


BOOK A HOTEL

การจองที่พักนั้นมีหลายช่องทาง และหลายรูปแบบด้วยกัน มาแนะนำคร่าวๆ

1. โรงแรม -  Hotel
ไม่ยาก โรงแรมมักหาได้ทั่วไป หาง่าย อยู่ตามหัวเมืองใหญ่หลักแหล่ง จองง่าย อยู่ง่าย เพียบพร้อม คิดราคาเป็นต่อห้อง ราคาก็ตามเกรดไป สามารถเสิร์จและจองได้ง่ายๆ จากเวบเอเจนซี่อย่าง Agoda, Booking, Expedia หรือจะเว็บรวมมาเปรียบเทียบราคาอย่าง Kayak, Skyscanner ก็ได้

โรงแรมที่ Chiayi, Taiwan ตอนแรกจอง Dorm ห้องว่างได้อัพเกรดมา Private
ประเทศนี้ ที่พักส่วนใหญ่มีความมุ้งมิ้ง


2. Hostel & Guesthouse
เป็นลักษณะห้องพักรวม มักมาในรูปแบบ Dorm บางแห่งอาจจะมีห้อง Private บ้าง ราคาที่แจ้ง มักจองเป็นเตียงตามจำนวนคน ข้อพึงระวังคือ Dorm มักจะมีห้องน้ำรวม และตามมาด้วยคนที่ร่วมห้องที่หลากหลาย มีความแล้วแต่ดวงมาก

ครั้งหนึ่งเราเคยเจอคนกรนแบบสเตอริโอ กรนไม่บันยะบันยัง / แขกที่เปิดห้องไปก็จะผงะกับกลิ่นเอกลักษณ์ / มนุษย์ที่ป้าที่วีนเหวี่ยง กางของกระจัดกระจายกินที่ทั่วห้อง หรืออีกหลายครั้งเราก็เจอคนดี เป็นมิตรอย่างที่สุด เรียกว่ามากับดวงค่ะ

ฉะนั้น ถ้าเลือกพัก Hostel อาจจะต้องเตรียมตัวรับมือ หรือยอมรับกับความ Private ที่หายไป แต่ก็แลกกับราคาที่แสนถูก ในทำเลดี

Guesthouse ราคาดีต่อกระเป๋าสตางค์และใจ , ใกล้สถานีรถไฟใน Hualian,Taiwan
ข้อเสีย คือ ด้านล่างเป็นร้านมอไซค์ ไม่มีหน้าร้านที่พัก หายากมากกกกกกกก เกือบไม่ได้พัก 
ส่วนกลางของที่ Hostel ใน Taipei, Taiwan นอกจากจะมีครัว ก็เป็นห้องทำงานของมุ้งมิ้งของเจ้าของด้วย 


3. AirBnB
หลายคนก็รู้จัก Airbnb แล้ว หลายคนก็เคยพักแล้ว และโดนเทมาแล้วด้วยความเข้มงวดของกฎหมายที่เพิ่มขึ้น หลายคนก็ยังไม่เคย หรือแม้แต่จะรู้จัก
Airbnb อยู่บนพื้นฐานของ Guesthouse เหมือนกันค่ะ คือการเข้าแบ่งบ้านของเขา ให้เราเข้าไปพัก บางทีอาจจะเป็นห้องว่าง 1 ห้องในบ้าน, บางทีเป็นห้องนั่งเล่นว่างๆ เราก็ไปนอนแบบปูฟูก หรือนอนบนโซฟา , บางทีก็เป็นบ้านเปล่า แค่เขาไม่อยู่ ปล่อยให้เราไปพักได้ เรียกว่ามีหลากหลายรูปแบบ หาได้ตาม condition เลย ราคาก็แตกต่างกันไป มีตั้งแต่ถูก ยันแพงเพราะเป็นอพาร์ทเมนต์สุดหรู แต่งแบบมีสไตล์ กลาง Manhattan ก็มี

ข้อดีของ Airbnb คือคุณอาจจะได้ห้องที่ดีมากๆ Private มีครัว มีห้องน้ำ ที่ใหญ่โต สะดวกสบาย ราวกับบ้านตัวเอง ในราคาไม่ถึงโรงแรม 5 ดาว บางครั้งคุณสามารถพัก 6 คน และมีตติ้ง ปาร์ตี้เสียงดัง (แบบมีมารยาท) ได้ โดยสะดวกกว่าการพักโรงแรม และในขณะเดียวกันก็อาจจะได้รับการเจรจา แนะนำสถานที่จากคน Local จริงๆ

ข้อเสียหลักคือ ในหลายประเทศ บ้านคนมักอยู่ในย่าน 'บ้านคน' ที่พักอาศัย ไม่ใช่ย่านท่องเที่ยว ใจกลางเมือง หรือย่านที่นักท่องเที่ยวอยู่ คุณอาจจะได้ความ Local จริง แต่ก็จะแลกกับการเดินทางที่ลำบากขึ้นนิดนึง-มากมาก หรือหลายอย่างไม่อำนวยความสะดวกต่อนักท่องเที่ยว ลองนึกภาพ ย่านชุมชนที่อยู่อาศัย คือ ตลิ่งชัน ที่คนมักมีรถ ขับรถเข้าเมืองกันได้เป็นปกติ แต่พอนักท่องเที่ยวไปพัก รถเมล์ก็อาจจะนานๆ มาที ของกินกลางคืนก็อาจจะไม่เยอะเท่าเยาวราช หรือใจกลางเมือง เป็นต้น รวมถึงจะเข้ากลางเมืองก็เสียเวลาไปอีก

แต่หลังๆจากได้พัก Airbnb มา  4 ที่ ยังไม่เคยโดนเทกลางทริป และแต่ละที่ก็ถือว่าโอเคเลย สะดวก สะอาด ดี เพียงแต่บางอันก็มีปัญหาเดินไกลเท่านั้น เวลาเลือกก็ลองเลือกจาก รีวิวเป็นหลัก แล้วมาดูอันที่ชอบอีกที ...สนใจก็ลอง กด Airbnb ไปสมัครสมาชิกกันได้ (สมัครผ่านลิ้งค์นี้ ได้ส่วนลดกันด้วยจ๊าาาา)

บ้านพักใน Seattle, USA ดีกว่าในรูปที่เจ้าของลงไว้มาก
แต่ไกลจากในเมือง นั่งรถประมาณ 30 นาที และเดินไปย่านขายของไกลพอสมควรเลย

บ้านใน Seattle เจ้าของบ้านมีทั้งแผ่นเสียง ทั้งหนัง ทั้ง Comics ก็รื้อค้น เม้ามอยเรื่องเดียวกันได้



4. Coachsufing
ถ้า Airbnb ยังถูกไม่พอ และ Local ไม่สะใจ... ขอแนะนำ Coachsurfing การไปพักตามบ้านชาวบ้านแบบฟรี ดังนั้นที่พักส่วนใหญ่มักจะให้นอนพื้นมีฟูกเล็กๆ หรือนอนโซฟา หรืออาจจะได้ห้องว่างเนื่องจากหลานไม่อยู่ อันนี้แล้วแต่ดวงอีกเช่นเคย

ประเด็นหลักคือมันฟรี !  แต่ก็มีอัตราเสี่ยงตรงมันฟรี และนอนโซฟาซะมาก มันก็จะค่อนข้างไม่มีความ Private เท่า Airbnb ผู้หญิงก็ถือว่าเสี่ยงหน่อย แต่ผู้ชายก็มีความปลอดภัยมาบ้าง ส่วนใหญ้เมื่อไปฟรี เราก็มักแลกด้วยการเอาของฝากไปให้เล็กๆ น้อยๆ เป็นการตอบแทน

5. Hotel with Priceline
อันนี้ของแถม คือ เว็บ Priceline จะเป็นเว็บที่สามารถประมูลโรงแรม ในรคาที่คุณต้องการได้ เพียงคุณเลือกย่าน กำหนดราคาที่อยากได้ มันก็จะทำการ Bid หรือประมูลให้ บางครั้งเคยได้โรงแรมดีมากอย่าง Coutyard ใน Boston ในราคาไม่กี่บาท เพียงแต่จะเดินไกลจากสถานีรถไฟหน่อย เพราะเราจะเลือกได้เป็นย่าน แต่จะสุ่มได้ตรงไหนของย่าน ก็ว่ากันอีกเลย เราจะไม่รู้โรงแรมเลยจนกว่าจะ Bid ได้ ก็สนุกและลุ้นในการจองที่พักไปอีกแบบ


WHERE TO STAY


อยู่อย่างไร ก็มาสงสัยที่ว่าอยู่ที่ไหนดี?

อันนี้ขอให้เลือกสถานที่อยู่ตาม - ความชอบ ลักษณะนิสัยในการท่องเที่ยว / งบประมาณ

โดยปกติแต่ละเมืองจะมีย่าน และเอกลักษณ์ของแต่ละย่านอยู่แล้ว
เพียงแมทช์ลักษณะการท่องเที่ยวให้เข้ากัน อย่างเช่น คุณชอบนอนสงบๆ ไม่พลุกพล่าน แต่ก็ไม่เงียบไป ก็อาจจะเลือกย่านที่ไม่ไกลแหล่งท่องเที่ยว แต่ก็ไม่อยู่ในย่านช้อปปิ้งปิดดึกมากเกินไป เพราะส่วนใหญ่ย่านชอปปิ้งมักจะพลุกพล่านตลอดเวลา

หรือถ้าคุณชอบช้อปปิ้งเสร็จเดินขึ้นห้องเลย ก็สามารถเลือกที่พักใจกลางแหล่งท่องเที่ยวได้เลย แต่ก็อาจจะแลกด้วยงบประมาณที่แพงหูฉี่

งบประมาณจะเป็นปัจจัยหลักในการเลือกย่านเลยก็ว่าได้

ตามมาด้วยการเช็คระยะทาง ระบบขนส่งมวลชนที่ใกล้เคียงก่อนจองทุกครั้ง
บางครั้งคุณได้ที่พักถูกแต่อยู่สามพราน นครปฐม ในขณะที่คุณต้องเข้ามาเที่ยวสยาม หรือจตุจักร มันก็คงจะไม่คุ้มกันราคาค่ารถ หรือเวลาที่เสียไป แทนที่จะได้เที่ยวเต็มที่

ง่ายๆ คือลองวางแผนการเที่ยวคร่าวๆ ดูว่าจะไปไหนบ้าง แล้วจิ้มว่ามีรถสายไหนผ่าน ถ้าสมมติรฟฟสายสีแดงผ่านเยอะสุด เราก็ควรเลือกที่ใกล้สายสีแดง ถ้าไม่มีจริงๆ ก็แพลนบีกันต่อไป

จากนั้นเมื่อเลือกได้สัก 3-4 โรงแรม ลองเอามาเสิร์จกูเกิ้ลดูระยะทางสักหน่อย ว่าอยู่ตรงไหนของแผนที่ แล้วจิ้ม Walking From .... To.... ซะ ประมวลเวลาในการเดิน ถ้าพี่กูบอก 5 นาที ตีไว้เลยว่า 10 นาที (อัตราการเดินเอ้อระเหยแบบไทยๆ) ถ้าได้ที่พักเดินห่างไม่เกิน 15 นาทีพี่กูถือว่าโอเค เพราะเกิดมีตารางเวลารถไฟที่ต้องไปให้ทัน เราก็จะเดินไปเหนื่อย หรือต้องจ้ำอ้าวกันจนเกินไป


อ้อ และก่อนจองทุกครั้ง อย่าลืมเสิร์จพี่กู Discount code ของแต่ละเว็บด้วย

เท่านี้เราก็ได้ที่พักที่สบายๆ ในราคาเซฟๆ เหมาะกับกระเป๋า และการท่องเที่ยวอันแสนสนุกแล้ววววว